วันแรก 1 : กรุงเทพฯ - อุดรธานี - หนองคาย - หมู่บ้านคีรีวงกต - วัดป่าภูก้อน - วัดผาตากเสื้อ
- คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์ เจ้าหน้าที่ทัวร์ให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และเช็คอิน
- ออกเดินทางสู่จังหวัดอุดรธานี โดยสายการบิน NOK AIR เที่ยวบินที่ DD88
- เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี...
- นำท่านเปิดประสบการณ์ใหม่ที่หาที่ไหนไม่ได้ กับการนั่งรถอีแต๊กล่องแก่งเพื่อไปกินข้าวกลางป่า ณ หมู่บ้านคีรีวงกต หมู่บ้านที่โอมล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติ น้ำโสม-นายูง แหล่งกำเนิดของน้ำตกห้วยพางลำธารที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิตในหมู่บ้านได้ใช้ประโยชน์ในการทำอาชีพเกษตกร วิถีชีวิตเรียบง่าย ชาวบ้านคีรีวงกตยังคงดำเนินชีวิตด้วยการประกอบอาชีพเกษตร ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง
ในพื้นที่ มีที่พักแบบโฮมเสตย์ และแบบรีสอร์ต ชมธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยทิวเขาและม่านหมอก พร้อมรับรุ่งอรุณ พานั่งรถซิ่ง ชมธรรมชาติ ตามดูวิถีชีวิตชาวไร่ ชาวเขา ชมน้ำตกห้วยข้างพราย ทานข้าวป่า และเก็บภาพจากจุดวิวแม่น้ำโขงบนยอดเขา นอกจากนี้อำเภอนายูงยังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการปลูกกาแฟอาราบิก้า และพืชเมืองหนาว โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟนายูง พร้อมตั้งโรงงานแปรรูปกาแฟ ผลิตทั้งกาแฟอาราบิกาและโรบัสต้า ในรูปแบบกาแฟคั่วบดแบรนด์ “กาแฟนายูง Nayung’s Coffee” เพื่อเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดอุดรธานี ทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่หน่วยงาน สถานศึกษาและผู้สนใจ มาเยี่ยมชมการปลูกและผลิตกาแฟนายูงในพื้นที่ โดยมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวนายูง ในงาน“เทศกาลวันสตรอเบอร์รี่และกาแฟนายูง ประจำปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชม เลือกซื้อทั้งผลไม้ กาแฟ หรือสินค้าชุมชนเป็นของฝากอีกด้วย
- บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
- นำท่านสู่ วัดป่าภูก้อน มีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน ซึ่งเป็นหินขาวอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานมากที่สุด ใช้ระยะเวลาในการสร้างถึง 6 ปี สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 อบ 84 พรรษา ในปี 2554
- นำท่านเดินทางสู่ วัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง วัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นแต่สถานที่ปฏิบัติธรรมเท่านั้นแต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความงดงามตามธรรมชาติ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงามอย่างไม่ขาดสาย ภายในวัด มองเห็นวิวของแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง โดยได้จัดทำ Skywalk ริมหน้าผาเป็นทางเดินกระจกใสรูปวงกลมสำหรับชมวิว หากมาเที่ยวในช่วงเช้าอาจมีโอกาสได้เห็นสายหมอกบางที่ลอยเหนือแม่น้ำโขงอีกด้วย
- บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว
วันที่สอง 2 : ศาลาแก้วกู่ - หลวงพ่อพระใส - ห่มผ้าพระธาตุกลางน้ำ - THE FOR REST COFFEE - ตลาดผ้าบ้านนาข่า
- บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านสู่ ศาลาแก้วกู่ อุทยานเทวาลัย หรือ วัด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนมาเยี่ยมชมมากมาย เพราะเต็มไปด้วยรูปปั้นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ที่มีความแปลกตาจำนวนรวมกว่า 200 องค์ โดยประกอบด้วยพระพุทธรูป พระรูปของพระโพธิสัตว์ เทพเจ้าฮินดู บุคคลในคริสต์ศาสนา ความเชื่อพื้นบ้าน และตัวละครจากรามเกียรติ์ เป็นสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และงดงามดูสวยงามตระการตา
- นำท่านสักการะ หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีพระรูปลักษณ์งดงามมาก ขนาดหน้าตัก กว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระสงฆ์เบื้องล่างถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว ของชางไม้ ปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) เป็นพระพุทธรูปที่ชาวจังหวัดหนองคายนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากและเป็น ที่เคารพสักการะอย่างยิ่ง
หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้าง และตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า พระธิดา 3 องค์ แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นผู้สร้าง บางท่านก็ว่าเป็นพระราชธิดาของพระไชยเชษฐาธิราช ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และขนานนาม พระพุทธรูปตามนามของตนเองไว้ด้วยว่า พระเสริมประจำพี่ใหญ่ พระสุกประจำคนกลาง พระใสประจำน้องสุดท้อง มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ การประดิษฐาน เดิมทีนั้นหลวงพ่อพระใสได้ประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ พ.ศ. ๒๓๒๑ สมัยกรุงธนบุรีได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองเวียงคำ และถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทน์อีก ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์เป็นกบฎ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ เป็นจอมทัพยกพลมาปราบ จึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญมาจากภูเขาควายขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้านเวินแท่นในขณะนั้น เกิดอัศจรรย์แท่นของพระสุกได้เกิดแหกแพจมลงไปในน้ำ โดยเหตุที่มีพายุพัดแรงจัด และบริเวณนั้นได้นามว่า "เวินแท่น" การล่องแพก็ยังล่องมาตามลำดับจนถึงน้ำโขง (ปากน้ำงึม) เฉียงกับบ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้เกิดพายุใหญ่ เสียงฟ้าคำรามคะนองร้องลั่น ในที่สุดพระสุกได้แหกแพจมลงไปในน้ำ ซึ่งอาการวิปริตต่างๆ ก็ได้หายไปเป็นอัศจรรย์ยิ่ง บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "เวินสุก" และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังเหลือแต่พระเสริม พระใส ที่ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริมนั้นได้ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ) ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) อัญเชิญพระเสริม จากวัดโพธิ์ชัย หนองคายไปกรุงเทพฯ และอัญเชิญพระใสจากวัดหอก่องขึ้นประดิษฐานบนเกวียนจะอัญเชิญลงไปกรุงเทพฯ ด้วย แต่พอมาถึงวัดโพธื์ชัย หลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหักจึงอัญเชิญลงไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริมลงกรุงเทพฯ ประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของหลวงพ่อพระใสจนได้สมญาว่า "หลวงพ่อเกวียนหัก"
- บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
- นำท่านร่วม ห่มผ้าพระธาตุกลางน้ำ เพื่อเสริมบารมีและความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต พระธาตุกลางน้ำ เดิมชื่อ พระธาตุหล้าหนอง เป็นหนึ่งในพระธาตุที่อยู่ในตำนานพระอุรังคธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดยประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ (พระพนม) เดิมเจดีย์อยู่บนฝั่งริมน้ำในวัดพระธาตุหนองคาย ต่อมาถูกกระแสน้ำกัดเซาะจึงอยู่กลางลำน้ำโขงห่างจากชายฝั่งปัจจุบันประมาณ 200 เมตร โดยจะเห็นได้ชัดในฤดูแล้ง
- นำท่านสู่ THE FOR REST COFFEE คาเฟ่แห่งใหม่ในเมืองหนองคาย บริการทั้งเครื่องดื่มและขนมแสนอร่อย มีพื้นที่กว้างขวาง ตกแต่งหลากหลาย ทั้งต้นไม้สีเขียวหลายพันธุ์ และทางร้านจะพ่นไอน้ำออกมาเหมือนหมอก โดยมีพื้นนั่งหลายโซน แต่ที่พลาดถ่ายรูปไม่ได้ อาคารที่ตกแต่งด้วยกระจกวงกลมอย่าง นำคณะเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรมอมันตาหนองคายหรือเทียบเท่า
- นำท่านสู่ ตลาดผ้าบ้านนาข่า เลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก อาทิ ผ้าฝ้าย ผ้าหมี่ขิด เสื้อผ้าบุรุษและสตรี ตลาดผ้านาข่าเกิดจากการรวมตัวกันของชาวบ้านในปี พ.ศ. 2517 เดิมในพื้นที่เป็นบ้าน 2 ชั้น ข้างล่างใต้ถุนเป็นลานโล่งซึ่งเป็นพื้นที่ในการทอผ้าของชาวบ้านที่ทอไว้ใช้งานเอง หลังจากนั้นก็พัฒนาจนกลายเป็นสินค้า ลายผ้าแรกเริ่มจะเป็นลายขิดดอกพิกุล และผ้าสีพื้น ทั้งผ้าไหมและผ้าฝ้าย ในช่วงปี พ.ศ. 2530 มีพัฒนาชุมชนเข้ามาในชุมชนดูการทอผ้า และวิถีชีวิตของคนในชุมชน และได้รับมอบงบสนับสนุนให้แก่ชุมชนในการพัฒนาสร้างอาชีพ และได้รับการอุดหนุนผ้าจากคณะเยี่ยมชม ทำให้เกิดชื่อเสียงขึ้นมาในระดับหนึ่ง จนทำให้ตลาดผ้านาข่าที่ก่อนหน้าจะขายเป็นผ้าที่ยังไม่ได้แปรรูป ได้พัฒนาโดยการเพิ่มเป็นการแปรรูป ให้ได้มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น จาก 7 ร้านค้าพัฒนาสู่ 200 กว่าร้านค้าในปัจจุบัน
- บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
- นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว
วันที่สาม 3 : บึงหนองหาน บัวแดง - คำชะโนด - ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน - กรุงเทพฯ
- บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
- นำท่านสู่ บึงหนองหาน ชมความงดงามของ ดอกบัวแดง ที่บานสะพรั่งเต็มท้องน้ำ อยู่ในบึงน้ำจืด แหล่งน้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไป ด้วย พันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้ำ จำนวนมาก ท่าน จะมองเห็น ดอกบัวแดง บานเต็มท้องน้ำ หนองหานสุดลูกหูลูกตางดงาม อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า ทะเลบัวแดง และปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดอกบัวแดงบานสะพรั่งสวยงามที่สุดในรอบ 10 ปี
- บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
- นำท่านสู่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คำชะโนด ดินแดนที่มีเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวพญานาค นำท่านสักการะศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ พยานาคผู้สร้างแม่น้ำโขง และสักการะบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวทุกท่าน
- นำท่านสู่ ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุดรธานี บริเวณเดียวกันกับศาลเจ้าปู่ย่า สถานที่ตกแต่งโดยจำลองบรรยากาศแบบจีน เหมือนยกเมืองจีนมาไว้ใจกลางอุดร โดยสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูองค์เจ้าปู่เจ้าย่า ที่เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งเป็นแหล่งในการสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาวจีนที่อพยพจากประเทศจีนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในจังหวัดอุดรธานี เป็นสถานที่สงบ เย็นสบาย เเละสวยงามมาก สำหรับท่านที่เกิดในปี มะแม ฉลู จอ มะโรง ท่านสามารถแก้ปีชงได้ที่นี่อีกด้วย
- สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่...ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี
- ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ DD313
- เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
