วันแรก 1 : ท่าอากาศยานดอนเมือง - ท่าอากาศยานภูเก็ต - พังงา - ท่าเรือสุระกุล (ท่าเรือกระโสม) หรือท่าด่านศุลกากร - ล่องเรือเที่ยวอ่าวพังงา - เกาะปันหยี - ถ้ำลอด - เขาพิงกัน - เขาตาปู เกาะเจมส์บอนด์ - จุดชมวิวเสม็ดนางชี - ตลาดนัดชิลล์วา
- พร้อมกันที่จุดนัดหมาย สนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 3 ผู้โดยสารขาออกในประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย ประตู 9-10 เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
- มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยสายการบิน AIR ASIA (FD) เที่ยวบิน FD3029
- ถึง ท่าอากาศยานภูเก็ต รับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์จะรอต้อนรับท่านอยู่ด้านนอก นำท่านขึ้นรถตู้ปรับอากาศเดินทางท่องเที่ยว เดินทางสู่ ท่าเรือสุระกุล (ท่าเรือกระโสม) หรือ ท่าเรือด่านศุลกากร จ.พังงา นำท่าน ล่องเรือเที่ยวอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ชมทิวทัศน์ของอ่าวพังงาที่จะทำท่านตื่นตาตื่นใจไปกับหน้าผาหินและเกาะที่มีรูปร่างแปลกตา ชมพื้นที่ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเป็นป่าชายเลนกว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 42 เกาะ เรียงรายไปตามน่านน้ำของป่าชายเลน เดินทางสู่ เกาะปันหยี หรือ บ้านกลางน้ำ ชื่อนี้มีที่มาเนื่องจาก“โต๊ะบาบู” ผู้นำชาวอินโดนีเซียอพยพมาเมื่อ 200 ปีก่อน เมื่อมาเจอเกาะปันหยีได้ขึ้นไปปักธงให้พรรคพวกที่อพยพ มาด้วยกันรู้ว่าเป็นสถานที่ เหมาะสมที่จะตั้งบ้านเรือน คำว่า “ปันหยี” แปลว่า “ธง” มีลักษณะเป็นหมู่บ้านที่ตั้งเรียงราย อยู่บนทะเลมีที่ดินนิดเดียวซึ่งเอาไว้เป็นที่ สร้างมัสยิดและกุโบว์ ชาวเกาะส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และสร้างหมู่บ้านแทบทั้งหมดด้านหน้าของหน้าผาหินปูนเหนือน้ำทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน บนเกาะปันหยีนั้นมีทั้งโรงเรียน สถานีอนามัย มัสยิด ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย และเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาแวะเยี่ยม ชมมีสินค้าที่ระลึกจำหน่าย เช่น ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผ้าบาติก สร้อย กำไล แหวน ที่ทำมา จากหอยมุก และยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีก เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบ กะปิและเป็นจุดพักทานอาหาร นักท่องเที่ยวมักนิยมมาทานอาหารกลางวันที่เกาะปันหยี นำท่านกลับสู่ท่าเรือ อีกหนึ่งความ Unseen บนเกาะปันหยี คือ สนามฟุตบอลลอยน้ำ แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากฟุตบอลโลก 1986 สนามฟุตบอลแห่งนี้มาจากความตั้งใจของเด็กๆในชุมชน และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลหลายรายการเลยทีเดียว ทำให้สนามฟุตบอลกลางทะเลแห่งนี้ เป็นที่เที่ยวไฮไลท์ของเกาะปันหยีอีกด้วย
- รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 1)
- นำท่านนั่งเรือผ่านไปยัง ถ้ำลอด เป็นภูเขาลักษณะเกาะทะลุ เป็นถ้ำทะเลที่กำเนิดจากแรงกัดเซาะขอ คลื่นทะลุทุลวงจนเป็นโพรง ปากถ้ำกว้างประมาณ 50 เมตร สูง 40 เมตร มีหินงอกหินย้อยบนเพดานถ้ำที่สวยงาม สามารถนั่งเรือลอดผ่านถ้ำเข้าออกได้ทั้งสองด้าน เรือขนาดเล็กสามารถแล่นผ่านได้แต่จะลอดถ้ำได้เฉพาะช่วงที่น้ำลงเท่านั้น
- จากนั้นล่องเรือมาที่ เขาตาปู เขาพิงกัน อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เมื่อขึ้นจากเรือแล้วหันหน้ามองกลับไปจะสามารถมองเห็นผืนน้ำสีเขียวกับเขาตะปูที่มองเห็นจากบนเกาะเป็นภาพที่สวยงาม นำท่านถ่ายภาพเช็คอินรูปสวยๆ เขาตาปู หรือเกาะตาปู หรือเกาะเจมส์บอนดิ์ เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพังงา ลักษณะเป็นแท่งหินใหญ่ปักอยู่ในทะเลบริเวณปากอ่าวพังงาเมื่อมองจากระยะไกลจะเห็นเป็นลักษณะคล้ายกับตะปูขนาดยักษ์ถูกตอกลึกลงไปในน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่มีภาพยนตร์ฮอลลีวูดมาถ่ายทำในปี พ.ศ. 2517 เรื่องเจมส์ บอนด์ ตอนเพชฌฆาตปืนทอง (The Man with the Golden Gun) และได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า James Bond Island นักท่องเที่ยวสามารถชมเขาตะปูได้ระยะไกลจากเรือ หรือชมจากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน และไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวล่องเรือเข้าไปดูเขาตะปูใกล้ๆโดยเด็ดขาด เนื่องจากส่วนที่จมอยู่ใต้ทะเลถูกน้ำทะเลกัดเซาะเป็นเวลานานและมีขนาดเล็กลงเกรงว่าอาจจะล้มลงมาได้และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เขาพิงกัน ภูเขาหินขนาดใหญ่กลางทะเลในบริเวณอ่าวพังงา มีลักษณะพิเศษแปลกตากแตกต่างจากภูเขาอื่นใดทั้งสิ้น โดยมีลักษณะเป็นภูเขาสองลูกที่แนบยึดติดกัน เป็นแนวเส้นตรงจากยอดเขาสู่ตีนเขา เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก คือภูเขาแตกออกเป็นแนวตัดตรงและทรุดตัวต่ำลง ฐานเคลื่อนออกจากแนวเดิมเล็กน้อยเป็นเหตุให้แท่งหินซีกที่แตกออกตั้งเอียงพิงภูเขาลูกเดิมที่มีลักษณะคล้ายถูกของมีคมตัดเป็นเส้นตรงจากยอดเขาสู่ตีนเขาแต่ยังไม่ได้ถูกแยกออกจากกันกลับถูกปล่อยให้ยังคงแนบชิดติดกันจนถูกเรียกว่า เขาพิงกัน ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่ง
- เดินทางสู่ จุดชมวิวเสม็ดนางชี อยู่บ้านเสม็ดนางชี เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพังงา สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอ่าวพังงาได้อย่างสวยงาม จุดวิวมี 2 จุด จุดแรกคือ จุดชมวิวเสม็ดนางชี ซึ่งเป็นจุดชมวิวดั้งเดิมที่เปิดตัวเสม็ดนางชี จะอยู่ถึงก่อนเสม็ดนางชี บูติค เล็กน้อย ข้างบนมีจุดชมวิวและที่พักในรูปแบบเต้นท์ให้บริการ ถัดจากจุดชมวิวเสม็ดนางชีไปประมาณ 100 เมตร คือ จุดชมวิวของเสม็ดนางชีบูติค ซึ่งให้บริการในรูปแบบที่พักทั้งแบบรีสอร์ทและเต็นท์ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ค้างคืนสามารถขึ้นไปชมวิวถ่ายภาพบริเวณร้านอาหารและร้านกาแฟได้ ทัวร์นำท่านชมวิว จุดชมเสม็ดนางชีบูติค อิสระถ่ายรูปเลือกซื้อเครื่องดื่มตามอัธยาศัย
- สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ จังหวัดภูเก็ต เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งไข่มุกอันดามัน เคยเป็นดินแดนที่รุ่งโรจน์และมีความมั่งคั่งจากการทำเหมืองแร่ดีบุก ภูเก็ตมีแร่ดีบุกมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งการขุดแร่ดีบุกที่ภูเก็ต มีประวัติความเป็นมากว่า 500 ปีมาแล้วมนต์เสน่ห์ของภูเก็ตอยู่ที่ ตัวเกาะที่มีลักษณะเว้าเป็นอ่าวไปทั่วเกาะ ซึ่งทำให้เกิดชายหาดที่สวยงามมากมาย
ถ้ำลอดเป็นภูเขาลักษณะเกาะทะลุ ปากถ้ำกว้างประมาณ 50 เมตร สูง 40 เมตรเรือขนาดเล็กสามารถแล่นผ่านทะลุไปอีกด้านของถ้ำได้ แต่จะลอดถ้ำได้เฉพาะช่วงที่น้ำลงเท่านั้น บนเพดานถ้ำมีหินย้อยดูแปลกตาถ้ำลอด เป็นโพรงถ้ำเหนือน้ำใต้ภูเขาใหญ่ในทะเล บริเวณปากอ่าวพังง ลักษณะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีช่องทะลุให้น้ำทะเลไหลผ่านไปอีกด้าน ถ้ำลอดแห่งนี้จึงมีความคล้ายกับเกาะทะลุ บนเพดานถ้ำลอดจะมีหินงอกหินย้อยให้ชมตลอดเส้นทาง ถ้ำลอดเป็นภูเขาลักษณะเกาะทะลุ ปากถ้ำกว้างประมาณ 50 เมตร สูง 40 เมตรเรือขนาดเล็กสามารถแล่นผ่านทะลุไปอีกด้านของถ้ำได้ แต่จะลอดถ้ำได้เฉพาะช่วงที่น้ำลงเท่านั้น บนเพดานถ้ำมีหินย้อยดูแปลกตาถ้ำลอด เป็นโพรงถ้ำเหนือน้ำใต้ภูเขาใหญ่ในทะเล บริเวณปากอ่าวพังงา เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 50 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำนี้เป็นคนละแห่งกับที่เกาะทะลุนอกอยู่ลึกเข้าไปในป่าชายเลน ต้องนั่งเรือจากเกาะปันหยีเข้าไปในคลองของอ่าวพังงา ประมาณ30 นาที เรือสามารถแล่นผ่านทะลุถ้ำได้ แต่จะลอดถ้ำได้เฉพาะช่วงที่น้ำลงเท่านั้นเรือสามารถลอดผ่านได้ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ระหว่างการเดินทางไปยังถ้ำลอดจะผ่านป่าชายเลน ที่มีความอุดมสมบูรณ์ผืนหนึ่งของประเทศไทย
เขาตะปู หรือ เกาะตะปู หรือเกาะ James Bond ตั้งอยู่ทางด้านเหนือในเวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงใน จังหวัดพังงา เนื่องจาก เคยเป็นสถานที่เคยถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง เรื่อง James Bond จนทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถ้ามองจากระยะไกล จะมองเห็นคล้ายกับตะปูขนาดยักษ์ถูกตอกลึกลงไปในทะเล เกาะตาปูมีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว ส่วนบนโปนออกและคอดกิ่วลงที่บริเวณฐานเหมือนกับตาของปู เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไกล้ เนื่องจากเขาตะปูอาจจะล้มได้ จึงให้นักท่องเที่ยวนั่งเรือชมห่างๆ หรือชมได้ จากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน
จุดชมวิวเสม็ดนางชี แหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งจังหวัดพังงา เพิ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวไม่นานนัก ความสวยงามของที่นี่ร่ำลือกันว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา จึงมีนักท่องเที่ยวมากมายที่หวังจะมาชื่นชม และซึมซับบรรยากาศภาพความสวยงามของพระอาทิตย์ที่แทรกตัวขึ้นจากด้านหลังหุบเขา เหมือนกับที่ คุณ popumon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้มีโอกาสไปเยือนที่สถานที่แห่งนี้ด้วยตัวเองมาแล้ว จนถึงกับต้องร้องว้าว !!! ออกมาดัง ๆ ให้กับความอะเมซิ่งในความสวยงามแบบอันซีนซึ่งอยู่ในเมืองไทยของเรานี่เอง
- รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 2)
- เดินทางสู่ ตลาดนัดชิลล์วา ตลาดกลางคืนตกแต่งสถานที่สวยงาม เน้นการพักผ่อนหย่อนใจเป็นหลัก มากไปด้วยของขายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า หรือสินค้าแฟชั่นอื่นๆ รองรับทุกการพบปะสังสรรค์ด้วยร้านอาหารหลากหลาย อิสระทุกท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
- ที่พัก: โรงแรมเดอะ มารีนา ภูเก็ต หรือระดับเทียบเท่ากัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง)
ตลาดกลางคืนบรรยากาศสบายๆ ที่มีเนื้อสัตว์และอาหารทะเลมากมาย รวมถึงผลไม้ ของหวาน และสินค้าอื่นๆ
วันที่สอง 2 : ท่าเรือทับละมุ - อุทยานหมู่เกาะสิมิลัน - หินเรือใบ - ชมวิวอ่าวเกือก ดำน้ำชมปะการัง เกาะบางู , เกาะบายู และ เกาะเมียง - ท่าเรือทับละมุ
- บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 3)
- ออกเดินทางสู่ ท่าเรือทับละมุ (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง)
- เดินทางถึงท่าเรือทำการเช็คอินและรับอุปกรณ์ดำน้ำ มีบริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟ อาหารว่าง พร้อมฟังบรรยายรายละเอียดโปรแกรมจากมัคคุเทศก์
- นำท่านลงเรือ Speed Boat มุ่งหน้าสู่ อุทยานหมู่เกาะสิมิลัน (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เดินทางมาถึง เกาะ 8 หรือ เกาะสิมิลัน เกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน มีธรรมชาติบนชายฝั่งทั้งหาดทรายขาวละเอียดสวยงาม และความงามใต้ท้องทะเลสมบูรณ์ทั้งปะการัง กัลปังหา และปลาหลากสีลัน ด้านทิศเหนือของเกาะมีหินใบเรือ จุดชมวิวอันเป็นที่เลื่องชื่อบนเนินเขาริมหาด ที่สามารถเดินไปชมวิวได้ นับเป็นสัญลักษณ์ของเกาะสิมิลันหรือเกาะแปด สามารถมองเห็นวิว อ่าวเกือก(Donald Duck Bay) ซึ่งโอบล้อมไปด้วยกองหินขนาดใหญ่ สวยงามแปลกตา อิสระให้ท่าน เล่นน้ำ ถ่ายรูป บนหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ จากนั้นนำทุกท่าน ดำน้ำจุดแรก ที่ เกาะ9 หรือ เกาะบางู ชมพันธุ์ปลาหายาก และฝูงปลาขนาดใหญ่ เป็นจุดยอดฮิตในการถ่ายภาพน้ำสีครามเข้มตัดกับกองหินสวยงามตระการตา
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา (ที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง) ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 ไร่ หรือ 128 ตารางกิโลเมตร ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2525 คำว่า สิมิลัน เป็นภาษามลายูแปลว่า เก้า หมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน มี 9 เกาะ เรียงจากเหนือมาใต้คือ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก เกาะสิมิลัน และเกาะบางู หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ มีปะการังที่สวยงามหลายชนิด สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก สามารถพบปลาที่หายาก เช่น วาฬ โลมา ปลาไหลมอเรย์ ช่วงเดือนที่น่าเที่ยวมากที่สุดคือช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน นอกจากนั้นจะประกาศปิดเกาะ
- รับประทานอาหารกลางวัน ณ ที่ทำการอุทยานหมู่เกาะสิมิลัน (มื้อที่ 4)
- นำทุกท่านออกมา ดำน้ำจุดที่สอง ที่ เกาะ7 หรือ เกาะบางู จุดดำน้ำตื้นที่ขึ้นชื่อของหมู่เกาะสิมิลัน เป็นที่อยู่อาศัยของเต่าทะเลที่พบเห็นได้บ่อยครั้งและชอบแวะเวียนมาทักทายกับนักท่องเที่ยวเสมอๆ จากนั้นนำทุกท่าน ดำน้ำจุดที่สาม ซีงเป็นจุดสุดท้าย ที่ เกาะ 4 หรือ เกาะเมียง เกาะที่มีชายหาดอันงดงามถึงสองชายหาด สามารถเดินทะลุถึงกันได้ ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆบนชายหาด เช่น เดินเล่น ถ่ายรูป หรือดำน้ำตื้นชมความงามของโลกใต้ท้องทะเลอันสวยงาม ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ ท่าเรือทับละมุ ถึงท่าเรือทับละมุ นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
เกาะบางู หรือ เกาะเก้า เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีโขดหินรูปลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะที่จุดดำน้ำ กองหินคริสต์มาสพอยต์ เป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามสลับซับซ้อนกันเป็นบริเวณกว้าง จะมีแนวปะการัง และกัลปังหาที่สมบูรณ์ และยังเป็นที่อยู่ของปลาหลากชนิด เช่น ปลาไหลริบบิ้น ฉลามครีบเงิน ปลาเก๋า ปลาบู่ กั้งตั๊กแตน
- รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 5)
- ที่พัก: โรงแรมเดอะ มารีนา ภูเก็ต หรือระดับเทียบเท่ากัน
วันที่สาม 3 : วัดฉลอง หลวงพ่อแช่ม - แหลมพรหมเทพ - หาดยะนุ้ย - Three monkey คาเฟ่กลางป่า – ย่านเมืองเก่า Phuket old town - โกปี๊เตี่ยม - ถนนดีบุก - แยกเยาวราช-ซอยรมณีย์ – ร้านของฝาก - ท่าอากาศยานภูเก็ต - ท่าอากาศยานดอนเมือง
- บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 6)
- เดินทางสู่ วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต ก่อสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต นำท่านแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่มและหลวงพ่อช่วง ผู้ก่อตั้งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคล ชาวบ้านเลื่อมใสและศรัทธาหลวงพ่อทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีชื่อเสียงทางด้านการปรุงยาสมุนไพร และช่วยเหลือชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกชาวจีน (อั้งยี่) กรรมกรเหมืองแร่ที่ได้ก่อเหตุจลาจลในช่วงปีพ.ศ. 2419 เป็นวัดที่มีความสวยงาม มีมหาธาตุเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า มีงดงามเป็นอย่างยิ่ง เดินทางสู่ แหลมพรหมเทพ ชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น จัดเป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย เป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ตห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รอบข้างแวดล้อมด้วยต้นตาลที่ขึ้นแทรกอยู่เรียงรายตามต้นหญ้าที่พัดพลิ้วด้านขวาเป็นหาดในหานและเกาะมัน ส่วนด้านซ้ายจะมองเห็นหาดในยะซึ่งเป็นหาดเล็กๆ โดยทั่วไป นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเที่ยวหรือพักที่หาดใด พอช่วงใกล้เย็นพากันมาชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ หากมาเที่ยวในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าเปิด มีเมฆน้อย บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพจะสวยงามมาก หากมาในฤดูร้อนมีทุ่งหญ้าสีทองขึ้นปกคลุมสวยงามมาก มองเห็นเกาะแก้วน้อย เกาะแก้วใหญ่และเกามัน ส่วนในฤดูฝนจะเป็นสีเขียว รอบๆ แหลมพรหมเทพเป็นโขดหินขนาดใหญ่ยามคลื่นลมแรงจะเห็นฟองคลื่นสีขาว กระทบโขดหินอย่างงดงาม อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย เดินทางสู่ หาดยะนุ้ย เป็นอ่าวเล็กๆที่เงียบสงบ บริเวณหาดจะมีแนวชายหาดไม่ยาวมากนัก มีเม็ดทรายค่อนข้างละเอียดแต่ไม่ขาวมาก อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 7)
- ท่านเดินทางไปถ่ายรูป เช็คอินสวยๆที่ Phuket old town ย่านเมืองเก่าภูเก็ต สุดคลาสสิค แวะร้าน โกปี๊เตี่ยม by วิไล ภูเก็ต คาเฟ่สุดคลาสสิก ย้อนอดีตเมืองภูเก็ต ของตกแต่งในร้านส่วนใหญ่ก็เป็นของสะสมของครอบครัว ซึ่งเป็นของเก่าจริง ๆ มีทั้งภาพถ่ายภูเก็ตในอดีต รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้อารมณ์ของบ้านคนภูเก็ดในอดีตจริง ๆ อิสระถ่ายรูปและเลือกซื้ออาหาร เครื่องดื่มตามอัธยาศัย ชมตึกชิโนโปตุกีส หลากหลายสีสัน ชมอาคารบ้านเรือน ตึกสวยๆ ซึ่งตึกเหล่านี้ถูกสร้างในสมัยที่ชาวจีนและชาวตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาในภูเก็ตเพื่อทำเหมืองแร่ ทำให้เกิดเป็นตึกที่มีการผสมผสานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว อาคารสวยๆ ที่ควรไปก็มีมากมาย และที่ห้ามพลาดคือไปถ่ายรูปกับหอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่านสวยงามนั่นเอง โดยย่านเมืองเก่านี้จะสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน ให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปอาคารบ้านเรือนสวยๆ การเดินชมย่านเมืองเก่าอันเป็นเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองภูเก็ต ถัดมาเป็น ถนนดีบุก ซึ่งเป็นถนนที่ขนานไปกับถนนถลางและถนนกระบี่ เป็นที่ตั้งของบ้านเรือนและตึกแถวเก่าแก่ที่เรียงรายไปตามสองฝั่งถนน สำหรับคนที่หลงใหลในความสวยคลาสสิคของอาคารสไตล์โคโลเนียล จะได้เห็นทั้งลวดลายปูนปั้น ขอบประตู หน้าต่าง ช่องลม บานประตู ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของย่านเมืองเก่าภูเก็ต บรรยากาศของถนนดีบุกโดยรวมๆ อาจจะดูไม่หวือหวา แต่บนถนนเส้นนี้มีที่น่าเที่ยวร้านน่ารักให้แวะนั่งพักและถ่ายรูปตลอดสองฝั่งถนน ถัดมาสู่ ถนนเยาวราช ศูนย์รวมของอาหารคาวหวานไว้ในย่านเดียวกันถนนเส้นนี้จะได้สัมผัสกับความหลากหลาย ของตึกชิโนโปรตุกีสที่หาดูได้ยาก ถัดออกมาผ่าน ซอยรมณีย์ ซอยเล็กๆ มีอาคารสีสันสดใสหลากสี ทั้งชมพู เหลือง น้ำเงิน เหมาะกับการถ่ายภาพ
- สมควรแก่เวลานำท่านแวะซื้อของฝากกันที่ ร้านคุณแม่จู้ ของฝากเมืองภูเก็ต มีของฝากขึ้นชื่อมากมายหลายอย่าง เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบตำสด,แกงไตปลา,ขนมเต้าส้อ เป็นต้น สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อเดินทางกลับ
- ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสายการบิน AIR ASIA (FD) เที่ยวบิน FD3028
- เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
เงื่อนไขในการสำรองที่นั่งและจ่ายเงิน
- ค่ามัดจำท่านละ 3,000 THB
เงื่อนไขการยกเลิกการสำรองที่นั่ง
ยกเลิกก่อนการเดินทางตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป คืนเงินค่าทัวร์โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
- แจ้งยกเลิกก่อนเดินทางระหว่าง (>= AND <=) 15 ถึง 29 วัน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าบริการ 50 %
- แจ้งยกเลิกก่อนเดินทางอย่างน้อย (>=) 15 วัน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าบริการทั้งหมด
*กรณีมีเหตุยกเลิกทัวร์ โดยไม่ใช่ความผิดของบริษัททัวร์ คืนเงินค่าทัวร์โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง(ถ้ามี)
*ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ
อัตราค่าบริการนี้รวม
ค่าที่พักห้องละ 2 ท่านตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการหรือระดับเทียบเท่า
ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุในรายการ
น้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่อง Carry on 7 กิโลกรัม
ค่าอาหารตามที่ระบุในโปรแกรม ค่าเข้าชม ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
ค่ายานพาหนะนำเที่ยวตามรายการ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
ค่าธรรมเนียมเข้าชมตามรายการที่ระบุสำหรับนักท่องเที่ยวไทย
เจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยอานวยความสะดวกทุกท่านตลอดการเดินทาง
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาทค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 500,000 บาทตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ไม่รวมประกันสุขภาพ ท่านสามารถสั่งซื้อประกันสุขภาพเพิ่มได้
ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับพร้อมค่าภาษีสนามบินรายการทัวร์ข้างต้น ที่นั่งเป็นไปตามการจัดสรรของสายการ
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง
ค่ามินิบาร์ในห้องพัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด เป็นต้น
ค่าประกันภัยธรรมชาติ และประกันชีวิตส่วนตัว และประกันสุขภาพ
ไม่รวมน้ำหนักสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องกรณีต้องการชำระเพิ่มพร้อมค่าทัวร์
เพิ่ม 15 กิโลกรัม ราคา 480 บาท/เที่ยว
เพิ่ม 20 กิโลกรัม ราคา 510 บาท/เที่ยว
เพิ่ม 25 กิโลกรัม ราคา 650 บาท/เที่ยว
เพิ่ม 30 กิโลกรัม ราคา 1,020 บาท/เที่ยว
เพิ่ม 40 กิโลกรัม ราคา 1,260 บาท/เที่ยว
ค่าอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ
ค่าอาหารสำหรับท่านที่ทานเจ มังสวิรัติ และหรืออาหารสำหรับมุสลิม
ชาวต่างชาติ ชำระเพิ่มท่านละ 800 บาท
ค่าทิปไกด์ ท่านละ 300 บาท
หมายเหตุ
มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิในการให้คำสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
*ขอสงวนสิทธ์ในการปรับเปลี่ยนราคาเพิ่ม หากมีการปรับขึ้นของภาษีน้ำมันหรือภาษีใดๆ จากสายการบิน *
บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากยานพาหนะ การยกเลิกเที่ยวบิน การล่าช้าของสายการบิน ภัยธรรมชาติ การเมือง จลาจล ประท้วง คำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ และอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือ
บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากยานพาหนะ การยกเลิกเที่ยวบิน การล่าช้าของสายการบิน ภัยธรรมชาติ การเมือง จราจล ประท้วง คำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ และอื่นๆ ที่อยู่นอเหนือ
บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยไม่อาจแก้ไขได้
กรณีผู้เดินทางต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อาทิเช่น ใช้วิวแชร์กรุณาแจ้งบริษัทฯ อย่างน้อย 7วันก่อนการเดินทาง มิฉะนั้น บริษัทฯไม่สามารถจัดการได้ล่วงหน้าได้
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การเมือง, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, การจราจรติดขัด
การควบคุมของทางบริษัท หรือค่าใช่จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทน บริษัทฯนอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯกำกับเท่านั้น
การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารขั้นต่ำ 9 ท่าน