สะบายดี ลาว 17 ที่เที่ยวลาว ต้องเช็คอิน

ลาว หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆ ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ และตอนนี้ ที่ลาวก็มี รถไฟความเร็วสูงลาว – จีน ที่ทั้งเดินทางได้ง่าย และสะดวกสบายมากขึ้น เพราะฉะนั้นจะพลาด ไปเที่ยวลาวหลังเปิดประเทศ แบบนี้ได้ยังไงกัน ตามมาปักหมุดเลยค่ะ กับ 17 ที่เที่ยวลาว สวยๆ ต้องเช็คอิน ใครที่วางแผนจะแบกเป้ไปเที่ยวลาวแล้วล่ะก็ ต้องห้ามพลาด

เที่ยวลาว สัมผัสวิถีชีวิตแบบสโลวไลฟ์ แฮปปี้แบบผ่อนคลายสบายใจ

 

01. วัดศรีเมือง

(Wat Si Muang)

วัดศรีเมือง เป็นวัดแห่งหนึ่งในนครเวียงจันทน์ที่มีประชาชนลาวเดินทางไปสักการะบูชาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ภายในวัดศรีเมืองเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองประจำนครเวียงจันทน์ วัดศรีเมืองสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2106 (ค.ศ. 1563) โดยเหล่าเสนาอำมาตย์ของพระเจ้าไชยเชษฐาธราชได้ลงความเห็นให้สร้างวัดศรีเมือง ณ ที่แห่งนี้ ต่อมาถูกกองทัพสยามทำลายลงในปี พ.ศ. 2371 (ค.ศ. 1828) และสร้างวัดศรีเมืองขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2458 (ค.ศ. 1915) ภายในวัดศรีเมืองมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่มากมาย โดยเฉพาะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ พระพุทธรูปองค์นี้ได้ชำรุดไปบางส่วน ซึ่งชาวลาวเชื่อกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ด้านหน้าบริเวณตรงข้ามประตูทางเข้าวัดศรีเมืองมีร้านจำหน่ายดอกไม้ ธูป เทียน และร้านจำหน่ายผลไม้ให้บริการทางด้านตะวันออกของวัดศรีเมืองมีสวนสาธารณะ เล็กๆ มีพระบรมรูปของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ตั้งอยู่บนแท่นสูงกลางสวนสาธารณะ พระหัตถ์ทรงถือสมุดใบลานที่จารึกประมวลกฏหมายฉบับแรกของลาวไว้ พระบรมรูปเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์นี้เป็นของขวัญที่ทางสหภาพโซเวียตมอบให้ มาก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หลังจากนั้นแผ่นป้ายโลหะจารึกพระนามถูกฝ่ายคอมมิวนิสต์รื้อทิ้งออกไป ภายหลังฝ่ายคอมมิวนิสต์ประสบชัยชนะในปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975)

ภายในอุโบสถจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ในห้องด้านหน้าจะเงียบๆ และจะมีพระอยู่หนึ่งองค์คอยอวยพรให้ ในขณะที่ห้องด้านหลังจะมีแท่นบูชาขนาดใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยพระพุทธรูป

 

02. พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว

(Hor Phakeo Museum)

หอพระแก้ว หอพระแก้วสร้างขึ้นในปีพ.ศ 1565 เป็นระยะไล่เลี่ยกับการสถาปนาเมืองเวียงจันทน์ขึ้นเป็นนครหลวงของอาณาจักรลาวล้านช้างภายใต้การนำพาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชในศตวรรษที่ 16 หอพักแก้วสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประทับขององค์พระแก้วมรกตนี้ตั้งอยู่ภายในบริเวณพระราชวังของเจ้าชีวิตไกลจากฝั่งแม่น้ำโขงประมาณ 150 เมตร โครงสร้างของอาคารหอพระแก้วที่เห็นปัจจุบันออกแบบโดยสมเด็จเจ้าสุวรรณภูมาเฉพาะโครงสร้างพื้นผังเบื้องล่างก่อสร้างดังเดิมมีลักษณะพิเศษอยู่ว่าสกุลช่างสถาปัตยกรรมศิลป์ลักษณะนี้ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชปรากฏว่ามีแห่งเดียวเท่านั้นที่มีระเบียงล้อมรอบด้านนอกของฝาผนังตึกซึ่งมีลักษณะคล้ายตระกูลช่างสถาปัตยกรรมสมัยเจ้าอนุวงศ์ต้นศตวรรษที่ 19 พงศาวดารกล่าวว่าเจ้าอนุวงศ์ได้ซ่อมพระแก้วแต่ไม่ได้สร้างหอพระแก้วเฉพาะประติมากรรมตกแต่งและศิลปะลวดลาย ต่างๆที่ประดับตามเสาฝาผนังน่าจะเป็นสกุลช่างศิลปะสมัยเจ้าอนุวงศ์โดยเฉพาะด้านทิศตะวันออกน่าจะทำขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 18

 

03. พระธาตุหลวง เวียงจันทน์

(Pha That Luang, Vientiane)

พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว ดังปรากฏว่าตราแผ่นดินของลาวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีรูปพระธาตุหลวงเป็นภาพประธานในดวงตรา

 

04. ร้าน เฝอแซ่บ

(PHO ZAP)

ร้านใหญ่แห่งนี้อยู่ห่างจากประตูชัยไม่ไกล เดินไปตามถนนล้านช้างลงมาทางไปแม่น้ำโขงประมาณ 300 เมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนขุนบูลม แล้วเดินตรงไปประมาณ 300 เมตร ร้านตั้งอยู่ด้านขวามือ

เมนูที่ขายดีคือ เฝอเนื้อวัว ที่ทางร้านถือเป็นต้นตำรับ นอกนั้นก็มีหมู เนื้อ ไก่ ปลา เมนูขึ้นชื่ออีกอย่างคือ เปาะเปี๊ยะทอด เป็นเมนูที่อร่อย สาเหตุที่ลูกค้าชอบเพราะแนมด้วยผักสดๆ หลายชนิด เพื่อสุขภาพ

ขนาดของเฝอที่ขายมี 3 ขนาดคือ S, L และ J ถ้วยจัมโบ้ 30,000 กีบ (10,000 กีบ ประมาณ 44 บาท) หรือประมาณ 100 กว่าบาท ขนาดใหญ่ 25,000 กีบ และขนาดเล็ก 20,000 กีบ แต่ละขนาดราคาแตกต่างกัน 5,000 กีบ เปาะเปี๊ยะจานละ 85 บาทขึ้นไป จนถึง 120 บาท

 

05. ประตูไซ (ประตูชัย)

(Patuxay Monument)

ประตูชัย (Patuxay Monument) หรือ ปะตูไซ ตั้งอยู่ที่ กรุงเวียงจันทน์ ค่ะ ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานที่รำลึกถึงวีรชนผู้ร่วมรบในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นในระหว่างช่วงปี พ.ศ.2500-2511 ทำให้การปักหมุดมาเที่ยวที่นี่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของการมาเที่ยวเวียงจันทน์เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปสวยๆ กันอีกด้วย

ภายในของปะตูไซมีการตกแต่งด้วยเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

 

06. สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง

(Laos-China railway)

 

07. ตลาดมืด

(Luang Prabang Night Market)

ตลาดมืด หรือถนนข้าวเหนียว เป็นสีสันยามค่ำคืนของเมืองหลวงพระบาง โดยถนนศรีสว่างวงศ์จะถูกแปรสภาพกลายเป็นตลาดขายของพื้นเมืองที่ชาวบ้านหลวงพระบาง หรือชนกลุ่มน้อยชาวม้ง ต่างพากันนำสินค้างานฝีมือมาวางขาย มีของหลากหลายให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเงิน ผ้าลายพื้นเมือง และของที่ระลึกจากหลวงพระบาง นับเป็นตลาดแห่งการค้าที่คึกคักของเมืองหลวงพระบางจนมีคำกล่าวที่ว่า “หากกรุงเทพฯ มีถนนข้าวสาร หลวงพระบางก็มีถนนข้าวเหนียว”

 

08. บ้านซ่างไห

(Sanghai)

บ้านซ่างไห (Sanghai) เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องการต้มเหล้าขาว หรือที่ชาวต่างประเทศเรียกกันว่า “เหล้าลาว (Lau Lao)” แทบทุกหลังคาเรือนจะมีการต้มเหล้า ผมลองเดินไปรอบๆหมู่บ้าน เขาทำกันแทบทุกบ้านจริงๆนะ สังเกตุได้จากไห และถังลิตรใหญ่ๆที่ตั้งอยู่สภาพเหมือนโดนไฟเผานั้นแหละ แล้วก็มีหลายหลังที่กำลังซาวข้าเพื่อหมักทำเหล้าอยู่ด้วย เราเขาไปขอถ่ายรูปกันก่อนตามระเบียบ ทุกคนก็ยินดีให้ถ่ายครับ เพราะมันไม่ได้ผิดกฏหมายเหมือนเมืองไทย ที่การต้มเหล้านั้นไม่สามารถทำได้ แต่ที่นี้ทำกันเป็นอุตสหกรรมเลยทีเดียว และนักท่องเที่ยวก็นิยมามาซื้อเหล้าขาว หรือเหล้าลาวเหล่านี้กลับไปเป็นของฝากอีกด้วย

ในหมู่บ้านไม่ได้มีแค่การต้มเหล้า แต่ยังมีการทอผ้า ทำเครื่องเงิน อีกด้วยบางบ้านก็กำลังทอให้เห็นกันเลย แน่นอนว่ามาถึงที่แบบนี้ก็จะได้ของที่ทำจากมือชาวบ้านจริงๆ

09. ล่องเรือแม่น้ำซอง

แม่น้ำซองเป็นแม่น้ำสายหลักของชาววังเวียงที่หล่อเลี้ยงและโอบอุ้มทุกชีวิตเอาไว้ ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ สิ่งแรกที่เห็นและประทับใจคือวิถีชีวิตของคนริมน้ำที่ยังดำเนินอยู่จริง ชาวบ้านยังพายเรือหาปลา เด็กๆ ยังกระโดดน้ำเล่น หลายคนยังแม่น้ำเป็นเส้นทางสัญจรไปมา ซึ่งเรามองว่าวิถีชีวิตแบบนี้ช่างมีเสน่ห์ และเหมาะกับคำว่า ‘สโลว์ไลฟ์’ ในความหมายที่แท้จริง

 

10. ถ้ำติ่ง หลวงพระบาง

(Tam-ting)

ถํ้าติ่ง ซึ่งเป็นถํ้าอยู่บนหน้าผาริมแม่นํ้าโขงมีอยู่ 2 ถํ้า คือ ถํ้าล่างและถํ้าบน ถํ้าติ่งลุ่ม หรือ ถํ้าล่างสูง 60 เมตรจากพื้นนํ้า มีลักษณะเป็นโพรงนํ้าตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวน 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถํ้าติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถํ้าไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถํ้าแต่ไม่มากเท่าถํ้าล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถํ้าติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา

 

11. น้ำตกตาดกวางสี

(Tat Kuang Si Waterfalls)

 น้ำตกตาดกวางสี หรือ น้ำตกกวางสี (Kuang Si Waterfall) ได้ชื่อว่าเป็น น้ำตกที่สวยที่สุดของหลวงพระบาง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 32 กิโลเมตรค่ะ ที่นี่เป็นน้ำตกหินปูน น้ำในน้ำตกจึงมีสีเขียวมรกตสวยงาม และมีจำนวนชั้นทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน มีความสูงโดยรวมประมาณ 75 เมตร ทำให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ น้ำตกยังมีสภาพป่าที่ร่มรื่น มีสะพาน และเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก และสามารถเลาะข้างน้ำตกเพื่อเดิมไปชมน้ำตกที่ชั้นบน นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำบริเวณลำธารได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งที่ที่ชิลมากทีเดียวสำหรับคนรักธรรมชาติ

 

12. ตักบาตรข้าวเหนียว

(Almsgiving Ceremony)

 การตักบาตรข้าวเหนียว ตอนเช้าในหลวงพระบาง ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก ด้านวัฒนธรรม ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยังคงสืบทอดยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานาน นอกเหนือจากมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม

การตักบาตรด้วยข้าวเหนียวมีมาตั้งแต่ศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ เพราะชาวหลวงพระบางรับประทานข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก มีข้าวเจ้าหรือข้าวสวยน้อยมาก นานๆ จึงจะมีการหุงข้าวเจ้า ยกเว้นในสมัยนี้   โดยการตักบาตรข้าวเหนียวที่หลวงพระบางนั้น ชาวบ้านจะฟังเสียงกลองของวัด ซึ่งเป็นสัญญาณให้ชาวบ้านหลวงพระบางเตรียมตัวปูเสื่อรออยู่ริมทางที่พระท่านจะเดินบิณฑบาต โดยการแต่งตัวของผู้หญิงจะต้องนุ่งผ้าซิ่น มีแพรเบี่ยงหรือผ้าสไบพาดไหล่ ผู้ชายจะต้องนุ่งกางเกงขายาวและมีผ้าพาดเช่นกัน

 

13. ตลาดเช้าหลวงพระบาง

(Morning Market Luang Pra Bang)

เป็นตลาดที่ขายวัตถุดิบที่สดใหม่ของหลวงพระบาง ที่นี่ชาวบ้านต่างพากันไปซื้อผักปลา สมุนไพรต่างๆ ไข่ ผลไม้สด รวมถึงเนื้อสัตว์ต่างๆหลากหลายชนิด ตลาดเช้าเป็นตลาดกลางแจ้งที่มีพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะขายสินค้าของพวกเขาเองใต้ร่มขนาดใหญ่ นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะจะซื้อ ไคแผ่น (สาหร่ายแม่น้ำ) เนื้อควายแห้ง กล้วย เห็ด หรือ หน่อไม้ทอด ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สนใจซื้ออะไร แต่มันก็คุ้มค่าที่จะไปเยี่ยมชมเพื่อถ่ายรูปสิ่งแปลก ๆ และ น่าอัศจรรย์ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน

 

14. วัดเชียงทอง

(Xieng Thong temple Luang Prabang)

วัดเชียงทอง สร้างขึ้นในรัชกาลของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้เคยปกครองทั้งล้านนา และล้านช้าง ไฮไลท์ของ วัดเชียงทอง ที่เที่ยวลาว แห่งนี้คือ สิม หรืออุโบสถของวัดเชียงทอง สิมหลังนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นอัญมณีแห่งศิลปะล้านช้าง และกลายเป็นต้นแบบของงานสถาปัตยกรรมต่างๆ อีกมากมาย เอกลักษณ์ของสิมแบบนี้คือความอ่อนโค้ง ที่แตกต่างจากสิมแบบอื่นๆ

 

15. พระธาตุพูสี

(Phousi Hill)

     พระธาตุพูสี (Phousi Hill) ตั้งอยู่บนยอดเขากลางเมืองหลวงพระบาง ที่มีความสูงถึง 150 เมตรเลยทีเดียวค่ะ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุรุท ประมาณปี พ.ศ.2337 และเป็นที่ประดิษฐาน พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ของชาวหลวงพระบาง มีพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาทเก่าแก่  องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร

16. วัดวิชุนราช

(Visounnarath Temple)

วัดวิชุนหรือวัดวิซุน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2058 ในรัชสมัยพระเจ้าวิชุลราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง พอมาถึงปี พ.ศ. 2343 พวกโจรธงดำภายใต้การบังคับบัญชาของพวกฮ่อ ได้เข้ามาโจมตี จนวัดถูกทำลายไปส่วนหนึ่ง จนมาถึง พ.ศ. 2441 จึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ ได้อัญเชิญพระบางมาประดิษฐานในวัดแห่งนี้

เอกลักษณ์ของวัดนี้เห็นได้จากประตูไม้ที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม และมีสถาปัตยกรรมแบบขอมที่ได้แบบมาจากปราสาทวัดภู แขวงจำปาศักดิ์ ในเขตลาวภาคใต้ ด้านในวัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่ และศิลาจารึกรูปแบบต่างๆ มเหสีของพระเจ้าวิชุลราชได้ชักนำให้มีการสร้างพระธาตุขึ้นซึ่งต่างจากพระธาตุอื่นๆ เพราะเป็นรูปทรงกลมตัดครึ่ง มองเหมือนแตงโมจึงเรียกว่าพระธาตุหมากโม (ธาตุปะทุม) ต่อมา พ.ศ. 2485 วัดนี้จึงได้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาพระพุทธรูปและวัตถุโบราณจำนวนมาก

 

17. ถ้ำนางฟ้า และ สะพานแขวนสีฟ้า

(Angel Cave)

ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สว่างไสวด้วยสปอตไลต์เจลซึ่งเต็มไปด้วยหินปูนขนาดใหญ่และมีหินย้อยตระการตาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นในพระพุทธเจ้า ห้องครัว หรือสัตว์ และอื่นๆ เดินไปตามทางเดินในตรอกแคบๆ และเพลิดเพลินไปกับความน่าดึงดูดใจของหินงอกหินย้อยที่ซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งนี้

About the author: Guide Chompoo

Remember that happiness is a way of travel, not a destination. – Roy M. Goodman
จงจำไว้ว่า ความสุขเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง

Get involved!

Comments

@peepso_user_51(Guide Chompoo)
ไกด์ชมพู่ ยินให้บริการค่ะ
11 months ago
@peepso_user_5(World travel)
ถ้า ไป ทัวร แพงไหม
11 months ago